โรงแรม Hilton สุขุมวิท 24 เป็นโรงแรมใหม่ที่กำลังจะเปิดค่ะ พอดีพี่สาวเรากำลังจะจัดงานแต่งงานที่นี่ แล้วมีเคส เราเลยอยากแชร์ให้ดู
อยากรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติรึเปล่า
เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวเราจองห้องจัดงานแต่งงานที่โรงแรม Hilton สุขุมวิท 24 ตั้งแต่โรงแรมยังไม่เปิดเลยค่ะ เวลาจัดงานเย็นจะเริ่ม 18.00 น. ตามปกติของงานทั่วๆไปตอนที่จองห้องบอลรูม เพื่อจัดงานแต่งงานเนี่ย ตอนกลางวันยังไม่มีคนจองใช้ เลยตกลงกับเซลล์ไว้ว่าจะมีการเข้าจัดซุ้ม จัดสถานที่ทั้งภายในห้องบอลรูมและบริเวณหน้าห้อง ก่อนเวลางานเริ่ม ตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยตกลงว่าจะส่งทีมงาน designer เข้ามาจัดสถานที่ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ซึ่งเซลล์ก็ตกลง
ต่อมาประมาณสามอาทิตย์ก่อนงานแต่งงาน เซลล์โทรมาบอกว่า ห้องบอลรูมได้ถูกจองใช้ตอนกลางวัน ณ วันงาน ตั้งแต่เช้าถึง 17.00 น. งานที่จัดในตอนกลางวันเป็นงานประชุมของบริษัทหนึ่ง(ไม่ทราบว่าที่ไหน) มีผู้เข้าร่วมประมาณเกือบ 200 คน เพราะฉะนั้น โรงแรมจะอนุญาตให้ทีมงานเข้ามาจัดสถานที่ได้หลังเวลาห้าโมงเย็นเท่านั้น
พี่สาวเรากับแฟนพอรู้เรื่องก็ช๊อคไปเลยค่ะ แค่คิดว่าประชุมเสร็จ 5 โมงจะจัดสถานที่ทันรึเปล่า กว่าคน 200 คนจะเดินออกจากห้องประชุมทั้งหมด ก็ใช้เวลาเท่าไหร่แล้ว โรงแรมต้องเคลียร์ของในห้องออกทั้งหมด และจัดห้องใหม่ การตกแต่งด้านในห้องบอลรูมก็เริ่มทำได้หลังงานประชุมเลิกเท่านั้น ตอนรู้เรื่องพยายามคุยทางโทรศัพท์แต่ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ พี่สาวเรากับแฟนเลยไปคุยที่โรงแรมเลย
ตอนไปคุยมีเซลล์ที่ติดต่อด้วยตั้งแต่แรก และชาวต่างชาติสองคน คนนึงเป็น ผู้จัดการเซลล์ อีกคนนึงเป็น director พี่สาวเรากับแฟน(แฟนพี่สาวเราเป็นชาวต่างชาติคะ)ก็พยายามไม่ยอม เพราะตอนแรกที่ตกลงไว้ไม่ได้เป็นอย่างนี้แต่ทางโรงแรมอ้างว่าเซ็นต์สัญญากับอีกฝ่ายไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้ ในสัญญาพี่สาวเราเขียนว่างานเริ่มหกโมง เค้าเลยมีสิทธิ์ให้อีกฝ่ายใช้ห้องถึงห้าโมงเย็นได้ ตอนคุยกันเค้าก็บอกว่าเค้ามีประสบการณ์ย้ายคนออกจากห้องไปได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง เหลืออีกชั่วโมงทางโรงแรมเตรียมห้องบอลรูมทันแน่นอน แต่ไม่ได้สนใจเลยว่าทีมงานเราจะทำทันรึเปล่า และคำว่าทันพอดี ก็ไม่ได้ยืนยันเลยว่าจะได้สำรวจความเรียบร้อยก่อนงานเริ่มรึเปล่า
แล้วทางโรงแรมยังพูดทำนองว่าอีกฝ่ายงานใหญ่กว่า ได้รายได้เยอะกว่า คือเค้าก็ไม่อยากเสียลูกค้าบริษัท สุดท้ายคือทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพนี้ พี่สาวกับแฟนติดต่อเองทุกอย่าง ไม่ได้ผ่านออแกไนเซอร์ เลยดูไม่มีอำนาจต่อรองไม่ให้ความสำคัญกับเราเท่าไหร่ ทั้งที่เราจองห้องไว้ตั้งนานแล้ว โรงแรมให้ทางเลือกแค่เข้ามาเตรียมงานวันก่อนวันงานตอนเย็น และเริ่มงานอีกทีได้วันงานหลังห้าโมง พวกฉากถ่ายรูปที่เป็นชิ้นใหญ่เค้ายอมให้เค้ามาทำแล้ววางไว้หน้าห้องบอลรูมได้ แต่ไม่ให้จัดอะไรในห้องบอลรูมทั้งสิ้น เพราะเป็นการรบกวนลูกค้าอีกฝ่าย เราพยายามต่อรองว่าถ้างั้นขอเริ่มตกแต่งภายนอกหลัง coffee break ตอนบ่ายได้มั้ยเพราะเค้าก็ไม่ได้ใช้พื้นที่ข้างนอกแล้ว โรงแรมก็บอกว่าไม่ได้เพราะสัญญาเค้าเขียนถึงห้าโมงเย็น เค้ารับปากเราไม่ได้ เค้าจะบอกเราได้วันงานเท่านั้นว่าจะให้เริ่มได้หรือไม่ได้ (ไม่เข้าใจว่าจะโทรไปถามเค้าไม่ได้หรือไงว่าเกิดสถานการณ์แบบนี้ ถามเค้าก่อนจะต่างอะไรกับถามเค้าวันงาน)
เหมือนโรงแรมโยนปัญหาทั้งหมดมาที่เราเลยค่ะ ปัญหาไมได้อยู่ที่เค้าเลย ถ้าเค้าจัดห้องไม่ทัน ทีมงานเราจัดไม่ทัน หรือเกิดพวกฉากที่ set up ไว้วันก่อนหน้ามันเกิดชำรุดเสียหาย โรงแรมไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยคะ กลายเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องมีแก้ปัญหาทุกอย่าง เราต้องเปลี่ยนแผนทั้งหมดกับทีมงาน ทีม designer ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพราะต้องเข้ามาที่โรงแรมสองรอบ แล้ววันจริงก็ต้องจ้างคนเพิ่มเพราะว่าเวลาในการทำงานมันสั้นมากแค่ชั่วโมงเดียวต้อง set up และเก็บงานทุกอย่างให้หมดทั้งหน้าห้องและในห้องบอลรูม ช่วงเวลาในการทำงานมันสั้นมากจริงๆ คะ การเป็นว่าทุกคนทุกฝ่ายต้องรีบ และงานจะออกมาดีมั้ย ไม่มีใครรับรองได้เลย แถมทางโรงแรมยังมาพูดว่างานของคุณดูเรียบง่ายไม่มีรายละเอียดมากเสร็จทันอยู่แล้วละ เอ่ิ่ม…..มันไม่ใช่เหตุผลนะคะ
พี่สาวเรากับแฟนเครียดมากเลยคะ ถ้ายังมีเวลาเค้าจะเปลี่ยนโรงแรมแน่นอน นี่อีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ การ์ดก็แจกไปแล้ว ตอนนี้ได้แต่ยอมรับอย่างเดียวเลย T_T กลายเป็นว่าพี่สาวเรากับแฟนก็ต้องกังวลไปทั้งวัน ว่าสุดท้ายทุกอย่างจะทันมั้ย จะดีมั้ย จ่ายเงินไปตั้งเยอะ ไม่มีเวลาแม้แต่จะถ่ายรูปกับสิ่งที่ตัวเองจ่ายไป แถมยังต้องมากังวลกับความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอีก
สรุปที่ตกลงกับโรงแรมก็คือจะต้องส่งคนเค้ามาสองรอบคือวันก่อนหน้าและวันจริง โรงแรมรับปากว่าจะออกค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มทั้งหมดให้ ส่วนวันจริง จะจัดห้องประชุมที่อยู่ชั้นเดียวกันไว้ให้เพื่อ ทีม designer ได้เตรียมงานตั้งแต่ 10 โมงเช้า แต่จะเอาของมาเริ่มจัดที่บริเวณจริงได้หลังห้าโมงเท่านั้น ส่วนบริเวณด้านในห้องบอลรูมทางโรงแรมจะจัดให้เสร็จตามเวลาที่ตกลง
โรงแรมอื่นระดับเดียวกันที่เคยไปคุย เค้าบอกเลยว่าถ้ามีการจัดงานแต่งงานตอนเย็น เค้าจะไม่รับงานอื่นในช่วงบ่าย หรือเค้าจะมีระยะเวลาขั้นต่ำระหว่างงานสองงานว่าต้องห่างอย่างน้อยกี่ชั่วโมงถึงจะรับงานได้ ใครจะไปคิดว่าระดับ Hilton จะมาทำอย่างนี้ได้
เราก็พยายามมานั่งคิดกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง คือคนเราปกติก็ไม่ได้จะมีประสบการณ์แต่งงานกันหลายรอบ เราเลยอยากแชร์ให้คนที่กำลังจะแต่งงานลองคิดและวางแผนดูนะคะ จะได้ไม่ต้องเจอแบบนี้
1. เริ่มต้นจากสัญญาเลยคะ ต้องลองดูว่าเงี่อนไขของแต่ละที่เป็นยังไง อย่าคิดเอาเองว่าทุกที่จะเหมือนกันนะคะ ถ้าเค้าระบุเวลาของการจัดงานมาอย่างกรณีพี่สาวเรายอมรับว่าเราไม่รอบคอบเอง จริงๆ ควรถามให้แน่ใจว่าจะไม่ปล่อยห้องให้คนอื่น ไม่ใช่บอกว่าตอนนี้ยังว่าง (แต่อนาคตไม่รู้จะเป็นยังไง ไม่รับปากนะจ๊ะ) เราควรระบุไปเลยว่าเวลาเริ่มจัดสถานที่คือกี่โมง ห้องต้องเป็นของเราตั้งแต่ตอนนั้น
2. ไม่สามารถเชื่อถือแค่คำสัญญาของเซลล์คนเดียวได้คะ ทุกอย่างเซลล์พูดว่า จะจัดการให้ค่ะ เรื่องเงินส่วนเพิ่มมาเก็บที่ดิฉันได้เลยค่ะ วันจริงเค้าอาจจะลาออก ลาป่วย แล้วจะไปตามอะไรกับใครได้คะ ทางที่ดีทุกอย่างต้องทำเป็นเอกสารไว้ เกิดอะไรก็เอามายันกันเลย
3. จากการที่ได้เข้าไปคุยกับผู้บริหารชาวต่างชาติทั้งสองคน เรารู้สึกว่า เค้าดูยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมไทย และดูไม่ได้ให้ความสำคัญของการจัดงานแต่งงานของพี่สาวเราเลย (ออกจะดูถูกนิดๆ ด้วย)
เค้าได้แต่พูดว่า โรงแรมทำได้ ชั่วโมงเดียวเราทำได้ แล้วถ้าไม่ได้ล่ะ ปัญหาของใครคะ คือตอนที่กำลังจะรับงานที่สอง ถ้าเป็นคนไทยหรือคนที่เข้าใจการจัดงานแต่งงานของไทย เค้าไม่ควรจะรับงานที่สองตั้งแต่แรก ไม่ใช่รับไปแล้วค่อยมาเคลียร์กับเราทีหลัง การส่งชาวต่างชาติมาบริหารงานโรงแรมแต่คนกลุ่มนั้นไม่คิดจะเรียนรู้วัฒนธรรมการจัดงานของไทย หรือประเทศอะไรก็ตามที่เค้าไปอยู่ ก็ให้อยู่บ้านเมืองตัวเองไปเถอะคะ ส่งมาก็ไม่มีประโยชน์ ผิดหวังในแบรนด์จริงๆ
4. โรงแรม Hilton เป็นโรงแรมเปิดใหม่ พวกระเบียบวิธีการเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานอาจจะยังไม่ชัดเจน ถ้าเป็นโรงแรมอื่นที่โปรในการจัดงานแต่งงาน พวกรับงานใกล้กันขนาดนี้คงไม่เกิดขึ้น
ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปเป็นเอกสารนะคะ ทั้งหมดที่ว่ามาเป็นแค่การพูดจาปากเปล่าเฉย ๆ พี่สาวเรากับแฟนจะเข้าไปคุยกับโรมแรมอีกทีอาทิตย์นี้ เฮ้อออออ!
เคยมีประสบการณ์ยังไงกันมาบ้าง ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไงกันคะ มาแชร์กันนะคะ เผื่อจะได้ลองเอาไปใช้ดู
ขอบคุณค่ะ
ขอเตือนคู่บ่าวสาวที่คิดจะจัดงานแต่งงานที่ Hilton สุขุมวิท 24
อยากรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติรึเปล่า
เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวเราจองห้องจัดงานแต่งงานที่โรงแรม Hilton สุขุมวิท 24 ตั้งแต่โรงแรมยังไม่เปิดเลยค่ะ เวลาจัดงานเย็นจะเริ่ม 18.00 น. ตามปกติของงานทั่วๆไปตอนที่จองห้องบอลรูม เพื่อจัดงานแต่งงานเนี่ย ตอนกลางวันยังไม่มีคนจองใช้ เลยตกลงกับเซลล์ไว้ว่าจะมีการเข้าจัดซุ้ม จัดสถานที่ทั้งภายในห้องบอลรูมและบริเวณหน้าห้อง ก่อนเวลางานเริ่ม ตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยตกลงว่าจะส่งทีมงาน designer เข้ามาจัดสถานที่ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ซึ่งเซลล์ก็ตกลง
ต่อมาประมาณสามอาทิตย์ก่อนงานแต่งงาน เซลล์โทรมาบอกว่า ห้องบอลรูมได้ถูกจองใช้ตอนกลางวัน ณ วันงาน ตั้งแต่เช้าถึง 17.00 น. งานที่จัดในตอนกลางวันเป็นงานประชุมของบริษัทหนึ่ง(ไม่ทราบว่าที่ไหน) มีผู้เข้าร่วมประมาณเกือบ 200 คน เพราะฉะนั้น โรงแรมจะอนุญาตให้ทีมงานเข้ามาจัดสถานที่ได้หลังเวลาห้าโมงเย็นเท่านั้น
พี่สาวเรากับแฟนพอรู้เรื่องก็ช๊อคไปเลยค่ะ แค่คิดว่าประชุมเสร็จ 5 โมงจะจัดสถานที่ทันรึเปล่า กว่าคน 200 คนจะเดินออกจากห้องประชุมทั้งหมด ก็ใช้เวลาเท่าไหร่แล้ว โรงแรมต้องเคลียร์ของในห้องออกทั้งหมด และจัดห้องใหม่ การตกแต่งด้านในห้องบอลรูมก็เริ่มทำได้หลังงานประชุมเลิกเท่านั้น ตอนรู้เรื่องพยายามคุยทางโทรศัพท์แต่ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ พี่สาวเรากับแฟนเลยไปคุยที่โรงแรมเลย
ตอนไปคุยมีเซลล์ที่ติดต่อด้วยตั้งแต่แรก และชาวต่างชาติสองคน คนนึงเป็น ผู้จัดการเซลล์ อีกคนนึงเป็น director พี่สาวเรากับแฟน(แฟนพี่สาวเราเป็นชาวต่างชาติคะ)ก็พยายามไม่ยอม เพราะตอนแรกที่ตกลงไว้ไม่ได้เป็นอย่างนี้แต่ทางโรงแรมอ้างว่าเซ็นต์สัญญากับอีกฝ่ายไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้ ในสัญญาพี่สาวเราเขียนว่างานเริ่มหกโมง เค้าเลยมีสิทธิ์ให้อีกฝ่ายใช้ห้องถึงห้าโมงเย็นได้ ตอนคุยกันเค้าก็บอกว่าเค้ามีประสบการณ์ย้ายคนออกจากห้องไปได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง เหลืออีกชั่วโมงทางโรงแรมเตรียมห้องบอลรูมทันแน่นอน แต่ไม่ได้สนใจเลยว่าทีมงานเราจะทำทันรึเปล่า และคำว่าทันพอดี ก็ไม่ได้ยืนยันเลยว่าจะได้สำรวจความเรียบร้อยก่อนงานเริ่มรึเปล่า
แล้วทางโรงแรมยังพูดทำนองว่าอีกฝ่ายงานใหญ่กว่า ได้รายได้เยอะกว่า คือเค้าก็ไม่อยากเสียลูกค้าบริษัท สุดท้ายคือทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพนี้ พี่สาวกับแฟนติดต่อเองทุกอย่าง ไม่ได้ผ่านออแกไนเซอร์ เลยดูไม่มีอำนาจต่อรองไม่ให้ความสำคัญกับเราเท่าไหร่ ทั้งที่เราจองห้องไว้ตั้งนานแล้ว โรงแรมให้ทางเลือกแค่เข้ามาเตรียมงานวันก่อนวันงานตอนเย็น และเริ่มงานอีกทีได้วันงานหลังห้าโมง พวกฉากถ่ายรูปที่เป็นชิ้นใหญ่เค้ายอมให้เค้ามาทำแล้ววางไว้หน้าห้องบอลรูมได้ แต่ไม่ให้จัดอะไรในห้องบอลรูมทั้งสิ้น เพราะเป็นการรบกวนลูกค้าอีกฝ่าย เราพยายามต่อรองว่าถ้างั้นขอเริ่มตกแต่งภายนอกหลัง coffee break ตอนบ่ายได้มั้ยเพราะเค้าก็ไม่ได้ใช้พื้นที่ข้างนอกแล้ว โรงแรมก็บอกว่าไม่ได้เพราะสัญญาเค้าเขียนถึงห้าโมงเย็น เค้ารับปากเราไม่ได้ เค้าจะบอกเราได้วันงานเท่านั้นว่าจะให้เริ่มได้หรือไม่ได้ (ไม่เข้าใจว่าจะโทรไปถามเค้าไม่ได้หรือไงว่าเกิดสถานการณ์แบบนี้ ถามเค้าก่อนจะต่างอะไรกับถามเค้าวันงาน)
เหมือนโรงแรมโยนปัญหาทั้งหมดมาที่เราเลยค่ะ ปัญหาไมได้อยู่ที่เค้าเลย ถ้าเค้าจัดห้องไม่ทัน ทีมงานเราจัดไม่ทัน หรือเกิดพวกฉากที่ set up ไว้วันก่อนหน้ามันเกิดชำรุดเสียหาย โรงแรมไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยคะ กลายเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องมีแก้ปัญหาทุกอย่าง เราต้องเปลี่ยนแผนทั้งหมดกับทีมงาน ทีม designer ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพราะต้องเข้ามาที่โรงแรมสองรอบ แล้ววันจริงก็ต้องจ้างคนเพิ่มเพราะว่าเวลาในการทำงานมันสั้นมากแค่ชั่วโมงเดียวต้อง set up และเก็บงานทุกอย่างให้หมดทั้งหน้าห้องและในห้องบอลรูม ช่วงเวลาในการทำงานมันสั้นมากจริงๆ คะ การเป็นว่าทุกคนทุกฝ่ายต้องรีบ และงานจะออกมาดีมั้ย ไม่มีใครรับรองได้เลย แถมทางโรงแรมยังมาพูดว่างานของคุณดูเรียบง่ายไม่มีรายละเอียดมากเสร็จทันอยู่แล้วละ เอ่ิ่ม…..มันไม่ใช่เหตุผลนะคะ
พี่สาวเรากับแฟนเครียดมากเลยคะ ถ้ายังมีเวลาเค้าจะเปลี่ยนโรงแรมแน่นอน นี่อีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ การ์ดก็แจกไปแล้ว ตอนนี้ได้แต่ยอมรับอย่างเดียวเลย T_T กลายเป็นว่าพี่สาวเรากับแฟนก็ต้องกังวลไปทั้งวัน ว่าสุดท้ายทุกอย่างจะทันมั้ย จะดีมั้ย จ่ายเงินไปตั้งเยอะ ไม่มีเวลาแม้แต่จะถ่ายรูปกับสิ่งที่ตัวเองจ่ายไป แถมยังต้องมากังวลกับความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอีก
สรุปที่ตกลงกับโรงแรมก็คือจะต้องส่งคนเค้ามาสองรอบคือวันก่อนหน้าและวันจริง โรงแรมรับปากว่าจะออกค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มทั้งหมดให้ ส่วนวันจริง จะจัดห้องประชุมที่อยู่ชั้นเดียวกันไว้ให้เพื่อ ทีม designer ได้เตรียมงานตั้งแต่ 10 โมงเช้า แต่จะเอาของมาเริ่มจัดที่บริเวณจริงได้หลังห้าโมงเท่านั้น ส่วนบริเวณด้านในห้องบอลรูมทางโรงแรมจะจัดให้เสร็จตามเวลาที่ตกลง
โรงแรมอื่นระดับเดียวกันที่เคยไปคุย เค้าบอกเลยว่าถ้ามีการจัดงานแต่งงานตอนเย็น เค้าจะไม่รับงานอื่นในช่วงบ่าย หรือเค้าจะมีระยะเวลาขั้นต่ำระหว่างงานสองงานว่าต้องห่างอย่างน้อยกี่ชั่วโมงถึงจะรับงานได้ ใครจะไปคิดว่าระดับ Hilton จะมาทำอย่างนี้ได้
เราก็พยายามมานั่งคิดกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง คือคนเราปกติก็ไม่ได้จะมีประสบการณ์แต่งงานกันหลายรอบ เราเลยอยากแชร์ให้คนที่กำลังจะแต่งงานลองคิดและวางแผนดูนะคะ จะได้ไม่ต้องเจอแบบนี้
1. เริ่มต้นจากสัญญาเลยคะ ต้องลองดูว่าเงี่อนไขของแต่ละที่เป็นยังไง อย่าคิดเอาเองว่าทุกที่จะเหมือนกันนะคะ ถ้าเค้าระบุเวลาของการจัดงานมาอย่างกรณีพี่สาวเรายอมรับว่าเราไม่รอบคอบเอง จริงๆ ควรถามให้แน่ใจว่าจะไม่ปล่อยห้องให้คนอื่น ไม่ใช่บอกว่าตอนนี้ยังว่าง (แต่อนาคตไม่รู้จะเป็นยังไง ไม่รับปากนะจ๊ะ) เราควรระบุไปเลยว่าเวลาเริ่มจัดสถานที่คือกี่โมง ห้องต้องเป็นของเราตั้งแต่ตอนนั้น
2. ไม่สามารถเชื่อถือแค่คำสัญญาของเซลล์คนเดียวได้คะ ทุกอย่างเซลล์พูดว่า จะจัดการให้ค่ะ เรื่องเงินส่วนเพิ่มมาเก็บที่ดิฉันได้เลยค่ะ วันจริงเค้าอาจจะลาออก ลาป่วย แล้วจะไปตามอะไรกับใครได้คะ ทางที่ดีทุกอย่างต้องทำเป็นเอกสารไว้ เกิดอะไรก็เอามายันกันเลย
3. จากการที่ได้เข้าไปคุยกับผู้บริหารชาวต่างชาติทั้งสองคน เรารู้สึกว่า เค้าดูยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมไทย และดูไม่ได้ให้ความสำคัญของการจัดงานแต่งงานของพี่สาวเราเลย (ออกจะดูถูกนิดๆ ด้วย)
เค้าได้แต่พูดว่า โรงแรมทำได้ ชั่วโมงเดียวเราทำได้ แล้วถ้าไม่ได้ล่ะ ปัญหาของใครคะ คือตอนที่กำลังจะรับงานที่สอง ถ้าเป็นคนไทยหรือคนที่เข้าใจการจัดงานแต่งงานของไทย เค้าไม่ควรจะรับงานที่สองตั้งแต่แรก ไม่ใช่รับไปแล้วค่อยมาเคลียร์กับเราทีหลัง การส่งชาวต่างชาติมาบริหารงานโรงแรมแต่คนกลุ่มนั้นไม่คิดจะเรียนรู้วัฒนธรรมการจัดงานของไทย หรือประเทศอะไรก็ตามที่เค้าไปอยู่ ก็ให้อยู่บ้านเมืองตัวเองไปเถอะคะ ส่งมาก็ไม่มีประโยชน์ ผิดหวังในแบรนด์จริงๆ
4. โรงแรม Hilton เป็นโรงแรมเปิดใหม่ พวกระเบียบวิธีการเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานอาจจะยังไม่ชัดเจน ถ้าเป็นโรงแรมอื่นที่โปรในการจัดงานแต่งงาน พวกรับงานใกล้กันขนาดนี้คงไม่เกิดขึ้น
ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปเป็นเอกสารนะคะ ทั้งหมดที่ว่ามาเป็นแค่การพูดจาปากเปล่าเฉย ๆ พี่สาวเรากับแฟนจะเข้าไปคุยกับโรมแรมอีกทีอาทิตย์นี้ เฮ้อออออ!
เคยมีประสบการณ์ยังไงกันมาบ้าง ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไงกันคะ มาแชร์กันนะคะ เผื่อจะได้ลองเอาไปใช้ดู
ขอบคุณค่ะ